วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ยุติความรุนแรง เพื่อเด็ก - สตรีไทย

เริ่มวันนี้ล่า 5 แสนชื่อ! ‘ยุติความรุนแรง’ เพื่อเด็กหญิง-สตรีไทย
“สิ่งเล็ก ๆ ที่เราช่วยกันทำในวันนี้ จะช่วยชีวิตเด็กผู้หญิง และผู้หญิง ได้อีกเป็นจำนวนมาก เป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ ที่เราทำได้ที่หน้าจอ เดี๋ยวนี้…” …นี่เป็นข้อความส่วนหนึ่งจากการรณรงค์ตามโครงการ “Say NO to Violence against Women” โดยกองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเฟม) ในประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการ “ต่อต้านความรุนแรงต่อเด็ก-ผู้หญิง”ทั้งนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงมีพระกรุณาธิคุณ ทรงตอบรับเป็น “ทูตสันถวไมตรี (Goodwill Ambassador)” ให้กับยูนิเฟม ในโครงการดังกล่าวนี้ โดย ดร।จีน เดอคูน่า ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ ยูนิเฟม ระบุว่า… “ยูนิเฟมรู้สึกสำนึกในพระกรุณาธิคุณ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ยังได้ทรงลงพระนามในโปสต์การ์ด เพื่อทรงเป็น 1 เสียงที่ร่วมต่อต้านความรุนแรงต่อเด็ก-ผู้หญิง ทรงเห็นความสำคัญถึงปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงในประเทศไทยและทั่วโลก ที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน” พระองค์ทรงริเริ่ม “โครงการกำลังใจ” ขึ้นมา และประทานความช่วยเหลือแก่กลุ่มผู้ต้องขังสตรีและเด็กติดผู้ต้องขัง ตามทัณฑสถานต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เปราะบางและมีความต้องการพิเศษ นอกจากนี้ ยังประทานความช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ต้องขังกลับตัวเป็นพลเมืองดี ภายหลังจากพ้นโทษแล้ว นอกจากนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ยังได้ประทานโปสต์การ์ดให้กับตัวแทนจากกระทรวงต่าง ๆ รวมถึงองค์กรภาครัฐและเอกชน รวมถึงมูลนิธิเพื่อผู้หญิง ในการร่วมลงชื่อในโปสต์การ์ด “ยุติความรุนแรงต่อเด็ก-ผู้หญิง” ความรุนแรงต่อเด็ก-ผู้หญิง…เป็นอีกปัญหาสำคัญในประเทศไทย…ปัญหานี้มีแนวโน้มเพิ่มระดับมากขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานสถานการณ์สตรีไทยประจำปี 2551 โดยสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับข้อมูลสถิติเด็กและสตรีที่ประสบความรุนแรง ในส่วนของเด็กและสตรีที่ประสบความรุนแรงในครอบครัว ในปี 2549 สตรี เด็กผู้หญิง และรวมถึงเด็กผู้ชาย ที่ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัวมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จาก จำนวนผู้รับบริการศูนย์พึ่งได้ (OSCC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือแก่เด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรง มีจำนวนสูงขึ้นกว่าเท่าตัว !! จากปี 2547 ที่มีผู้ถูกกระทำรุนแรงเฉลี่ยวันละ 19 ราย เพิ่มเป็นเฉลี่ยวันละ 39 ราย ในปี 2549 นอกจากนี้ ยังพบว่าเด็กและสตรีที่ถูกกระทำทารุณและเข้ารับการช่วยเหลือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยปี 2547 มี 469 ราย ในปี 2549 เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเป็น 837 ราย โดยผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากการ “ถูกทารุณทางเพศ” และจากการสำรวจอนามัยการเจริญพันธุ์ปี 2549 ก็พบว่า มีจำนวนสตรีสมรสอายุ 15-49 ปี เคย “ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ” ในรอบปีที่ผ่านมา จำนวนมากถึง 1,044,942 คน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ชี้ถึงสถานการณ์ปัญหาได้เป็นอย่างดี
และชัดเจนขึ้นอีกจากคดี “ข่มขืนกระทำชำเรา” โดยข้อมูลจากสำนักงานศาลยุติธรรมที่รวบรวมคดีจากศาลจังหวัดในความผิดเกี่ยวกับ การข่มขืนกระทำชำเรา มาตราที่ 276, 277-ทวิ, 277 ตรี, 278 และมาตราที่ 285 คดีความผิดเกี่ยวกับ การข่มขืนกระทำชำเรา ที่พิจารณาเสร็จสิ้นของศาลชั้นต้น และศาลเยาวชนและครอบครัว ทั่วราชอาณาจักร มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง !! โดยในปี 2549 มีคดีเพิ่มขึ้นจากปี 2545 เกือบเท่าตัว จาก 4,896 คดี เป็น 9,653 คดี ขณะที่จำนวนเด็กและสตรีที่ขอรับความช่วยเหลือในสถานสงเคราะห์ของ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพิ่มขึ้นจาก 15,750 คน ในปี 2547 เป็น 18,617 คน ในปี 2549 “โครงการเกี่ยวกับการยุติความรุนแรงต่อสตรีในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์คือป้องกันด้วยการแก้ไขทัศนคติหรืออคติทางสังคม อันเป็นบ่อเกิดของความต้องการผู้หญิงเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ และบ่อเกิดของความรุนแรงต่อสตรี กลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่น ผู้ชาย สื่อมวลชน ชุมชน และองค์กรพัฒนาเอกชนต่าง ๆ รณรงค์บนหลักการเปลี่ยนแปลงหรือป้องกันด้วยการสร้างค่านิยมใหม่ และทัศนคติที่เคารพสิทธิของผู้หญิง” …ดร.จีนระบุ พร้อมทั้งยังระบุด้วยว่า… ไทยจัดว่าเป็นประเทศที่ตื่นตัวและพร้อมที่จะแก้ปัญหานี้ ดังนั้น ยูนิเฟมจึงต้องการ “รวบรวมรายชื่อคนไทยให้ครบ 5 แสนชื่อ” เพื่อส่งมอบต่อเลขาธิการสหประชาชาติ ในวันที่ 25 พ.ย. 2551 ซึ่งเป็นวันสากลแห่งการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง ซึ่ง “จะทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่ให้การสนับสนุนและตระหนักถึงการแก้ปัญหาสิทธิสตรีมากที่สุด” และจะเป็นการสร้างแรงกระตุ้นต่อประเทศอื่น ๆ ด้วย “จึงขอเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมลงชื่อเพื่อยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงได้ที่เว็บไซต์ www.novaw.or.th/sign …ผอ.สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ ยูนิเฟม กล่าว ทั้งนี้ เว็บไซต์นี้จะพร้อมให้ลงชื่อได้ในวันสองวันนี้ และ 23-26 ต.ค. ที่เซ็นทรัลเวิลด์ก็จะมีบูธให้คนไทยลงชื่อด้วย สิทธิสตรีไทย…โดยเฉพาะที่ยังเป็นเด็ก…ต้องการการปกป้อง ลงชื่อที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต…ก็ช่วยได้ และนอกจากนี้ก็จะมีอีกหลายที่-หลายจุด…ที่เปิดให้ลงชื่อ คนไทยทุกทิศทั่วประเทศอย่ารอช้า…ช่วยกันหน่อย !!!.
ขอเชิญชวนให้ทุกท่าน โปรดร่วมลงนาม เพื่อเป็น 1 เสียง รวมพลังที่จะร่วมกันต่อต้าน การใช้ความรุนแรง และล่วงละเมิด ต่อเด็กและผู้หญิง อันเป็นการแสดงจุดยืนของคนไทย ให้เป็นที่ประจักษ์ แก่ประชาคมโลก และเป็นที่ยอมรับของ สหประชาชาติ ให้ประเทศไทย อยู่ในชั้นแนวหน้า ของประเทศในภูมิภาคนี้ ที่ให้ความสำคัญ ในเรื่องดังกล่าว
ที่มา: Daily News Online

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น